กลุ่มชาวมุสลิมปากีสถานกลุ่มแรกนั้น เริ่มเข้ามาอาศัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2400 กว่าๆ (ไม่สามารถระบุได้) ซึ่งเป็นการเดินทางเข้ามาโดยการเดินเท้าในรุ่นปู่ และรุ่นต่อมาเดินทางโดยทางเรือ ขึ้นท่าจากหลายจังหวัด เช่น อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำเภอละงู จังหวัดสตูล และตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น เมื่อขึ้นท่าเรือ ต่างเดินทางต่อทางบก และแยกย้ายกันไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อประกอบอาชีพค้าขายผ้า ขายเนื้อวัวเนื้อแพะ และรับจ้างเป็นยาม โดยมีกลุ่มหนึ่งเดินทางมาในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ เข้ามาทางคลองอู่ตะเภากลุ่มแรกจำนวน 40-50 คน ความเป็นอยู่ในสมัยนั้น เป็นการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม และได้รับการบริจาคที่ดินจากนายชีกิมหยง เพื่อการสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ต่อมาปี พ.ศ. 2480 สร้างมัสยิด ซาฮิ ปากีสถาน โดยสร้างบริเวณด้านหลังของบ้านเรือนแถว เพื่อประกอบพิธีทางศาสนกิจ-ละหมาด ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 พื้นที่บริเวณด้านหน้าเกิดไฟไหม้บ้านเรือน ทำให้ต้องย้ายที่อยู่ออกจากพื้นที่ของมัสยิด และมัสยิดได้รับการบูรณะสร้างใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยคุณนายละม้าย ภรรยาของนายชีกิมหยงได้บริจาคพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อขยายพื้นที่ด้านข้าง และสร้างห้องน้ำเพิ่มเติม ปัจจุบันจากรายชื่อของการลงทะเบียนสัปปุรุษ ของมัสยิดมุสลิมปากี มีจำนวนทั้งสิ้น 109 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564) ซึ่งชาวมุสลิมที่มีเชื้อสายปากีสถาน 100% ปัจจุบันมีเพียง 2 คนเท่านั้น นอกนั้นเรียกว่า ลูกครึ่ง (มีเชื้อสายมุสลิมปากีสถาน 50%) และลูกเสี้ยว (มีเชื้อสายมุสลิมปากีสถาน 25%) ซึ่งหมายรวมถึง กลุ่มลูกหลานที่พ่อแม่ชาวมุสลิมปากีสถานที่แต่งงานกับชาวไทยเชื้อสายอื่น ๆ กลุ่มนี้จะเรียกว่า ลูกครึ่ง และลูกเสี้ยว สำหรับการนับสายตระกูล มีจำนวนมากและหลากหลาย หากแต่มีข้อสังเกตจากคำลงท้ายของนามสกุล ส่วนใหญ่มักลงท้ายด้วยคำว่า “คาน” หรือ “คาร” หรือ “ประทาน” เป็นต้น
จับต้องไม่ได้ : InTangible.
แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล : SP : Social Practices, ritual and festive events ขนบธรรมเนียบประเพณีเกี่ยวกับวงจรชีวิต
.
เลขที่ : มัสยิด ซาฮิ ปากีสถาน ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา 90110
คุณเอก
0935825598
สิริวิท อิสโร : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ :