ได้รับอนุญาตเป็นวัด ในปี พ.ศ.2405 วัดวังจำปามีโบราณสถาน 2 แห่ง คือ เจดีย์หมื่นพริก และ เจดีย์หมื่นเกลือ เจดีย์หมื่นพริก เจดีย์หมื่น เกลือ พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เจดีย์ หมื่นพริก หมื่นเกลือ เจดีย์หมื่นพริก หมื่นเกลือ เป็นเจดีย์ร้างอยู่ บริเวณหมู่บ้านทุ่งหมากหนุ่ม หมู่ที่ 5 ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บ้านทุ่งหมากหนุ่มแต่เดิมนั้น ได้มีบ้านเรือนราษฎรได้มาอาศัยทำกินอยู่รวมกันประมาณ 20 กว่า หลังคาเรือน ตั้งอยู่บริเวณใกล้เจดีย์ 2 องค์ ซึ่งเจดีย์ทั้งสององค์นี้ ไม่ปรากฏหลักฐานสร้างมาตั้งแต่สมัยใดและมีอายุกี่ร้อยปีแล้ว เจดีย์องค์แรก อยู่ทางทิศเหนือ ชาวบ้านเรียกว่า “เจดีย์หมื่นพริก” อยู่ห่างจากวัดวังจำปามาทางใต้ประมาณ 400 เมตร ส่วนองค์ที่ 2 อยู่ทางทิศใต้ อยู่ติดกับถนนเข้าสู่หมู่บ้านทุ่งหมากหนุ่ม ชาวบ้าน เรียกว่า เจดีย์หมื่นเกลือ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจดีย์หมื่นพริกหมื่นเกลือ ตามคำบอกเล่าของ พ่ออุ้ยตา เตวิยะ ชาวบ้านแท่นคำ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง เล่าว่า “ในอดีตประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว อุ้ยตาเป็นเด็กเคยติดตามมารดาชื่อ แม่อุ้ยหล้า ไป ทำบุญและทำไร่ไถนาบริเวณเจดีย์หมื่นพริก หมื่นเกลือ อนึ่ง แม่อุ้ยปุ๋ม วงศ์ศรี (พี่สาวแม่อุ้ยหล้า) เป็นผู้ที่มีความขยันขันแข็ง ชอบค้าขาย ประกอบอาชีพค้าเกลือ และมีที่ไร่ที่นาบริเวณทุ่งหมาก หนุ่ม ส่วนชาวบ้านจอมทอง แท่นคำ และท่าหลุก ส่วนหนึ่งมีอาชีพ ทำไร่พริก ใกล้ๆกับบ้านทุ่งหมากหนุ่มคนละฟากกับน้ำปิง (บ้านหนองเขียด) เมื่อคนทั้งหลายได้เงินทองจากการค้าขายและ การทำไร่ทำนา ตามความเชื่อของบรรพบุรุษ จะต้องนำเงินทองนั้น ไปทำบุญก่อน จึงหารือตกลงกันว่า จะสร้าง “ประตูเมืองจอมทอง” เป็นรูปเจดีย์ตรงท่าเรือชื่อว่า “ท่าช้าง” (ได้ชื่อมาจากการที่ทางวัด พระธาตุศรีจอมทองนำช้างที่เจ้าเมืองเชียงใหม่ถวายให้ ไปอาบน้ำ ที่ท่าเรือแห่งนี้) โดยมีการตกลงแบ่งการสร้างเจดีย์เป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายชายนำเงินจากการขายพริก ไปสร้างเจดีย์ชื่อ เจดีย์หมื่นพริก (หมื่นแปลว่ามากมาย) อยู่ทางทิศใต้ ส่วนฝ่ายหญิงนำเงินจากการ ขายเกลือไปสร้างเจดีย์ชื่อ เจดีย์หมื่นเกลือ ห่างกันประมาณ 200 วา เมื่อกาลเวลาผ่านไปเจดีย์นั้นก็มีสภาพทรุดโทรมลง
จับต้องได้ : Tangible.
สถาปัตยกรรม : AR : ARchitecture ศาสนสถาน
.
เลขที่ : ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 5 ต. สบเตี๊ยะ อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่ 50160
นางจันทร์ดี สังขรักษ์
089-2624818
สุพัฒนวรี ทิพย์เจริญ : มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น : 2566 Open Call