โบสถ์เขาตกหรือวิหารพระโบสถ์เขาตก สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างประมาณปี พ.ศ.2301 ตามประวัติเล่ากันว่าท่านสมภารปาน (เจ้าอาวาสวัดชะแล้รูปที่ 5) ได้ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2407 ในสมัยนั้นบริเวณเนินเขาทิศตะวันตกมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่มาก ไม่มีคนกล้าขึ้นไปเพราะเป็นเนินเขาที่เปลี่ยว กอรปกับทางทิศตะวันตกของเนินเขาเป็นกุโบร์ (ที่ฝังศพของมุสลิม) ในอดีต ท่านสมภารปานจึงได้ชักชวนญาติโยมขึ้นไปแผ้วถางตัดแต่งต้นไม้ที่ไม่จำเป็นออก เมื่อถางไปก็พบเศียรพระพุทธรูปโผล่อยู่บนดิน จึงช่วยกันขุดดินบริเวณนั้นออกและได้พบพระพุทธรูปที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ จึงได้ช่วยกันทำความสะอาดและประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ที่เดิม ต่อมาภายหลังได้สร้างวิหารคลุมไว้ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระโบสถ์เขาตก" ต่อมามีพระภิกษุที่จำพรรษาชื่อภิกษุอ้นได้พอกปูนโอบรอบองค์พระทำให้องค์พระโบสถ์เขาตกมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยมีหน้าตักกว้างถึง 4 ศอก ดังที่เห็นได้ในปัจจุบัน ประชาชนโดยทั่วไปในตำบลชะแล้และใกล้เคียงจะให้ความเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปนี้เป็นอย่างมาก โดยมีความเชื่อในเรื่องการบนบานศาลกล่าวเพื่อให้ได้ในสิ่งที่มุ่งหวัง และเมื่อสมหวังในสิ่งที่ต้องการก็จะกลับมาแก้บนตามที่ได้บนบานไว้ นอกจากนี้พระโบสถ์เขาตกยังถูกกล่าวขานถึงความศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับกรณีเหตุการณ์พิพาทของคนที่หาข้อสรุปไม่ได้ มักจะพากันมาที่พระโบสถ์ตกพร้อมกล่าวคำสาบานแต่ละฝ่ายถึงความบริสุทธิ์ของตนเองจากข้อกล่าวหาของอีกฝ่าย และแสดงความบริสุทธิ์ กล้าสาบานให้มีอันเป็นไปถ้ากระทำจริง
จับต้องได้ : Tangible.
โบราณสถาน : AS : Archeological Site โบราณสถานสัญลักษณ์แห่งชาติ
อนุสาวรีย์แห่งชาติ
.
คุณกรณ์เชษฐ์ สิทธิพันธ์
094-539-3989
พัตรธีรา สุวรรณวงศ์ : มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ : 2566 Open Call