จดหมายเหตุการเดินทางของพระสังฆราชแห่งเบริธที่เดินทางเข้ามากรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ.2205 กล่าวถึงเมืองเพชรบุรีว่า"จากเมืองปราณบุรี เรามาถึงเมืองเพชรบุรี (Pipili) เมื่อวันที่13สิงหาคม โดยใช้เวลาเดินทาง5 วัน เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่และมีกำแพงเมืองก่ออิฐ กำแพงเมืองเพชรบุรีมี 4 ด้าน โดย กำแพงเมืองด้านทิศตะวันตกมีประตูเมืองเรียกกันมาว่า"ต้นโพธิ์ประตูเมือง" เพราะประตูเมืองด้านนี้มีต้นโพธิ์ขึ้นปกคลุม ชาวเมืองเพชรเรียกต้นโพธิ์ตูเมืองกันเรี่อยมา ต่อมาผู้ใหญ่เสริม บุระมาน(พ.ศ.2422-2523) พบพระพุทธรูปไม้แกะสลักลอยน้ำมาขึ้นที่ท่าตง (ท่าน้ำห่างจากประตูเมือง ราว100 เมตร ) ท่านจึงสร้างศาลทรงไทยไว้เป็นที่กราบไว้บูชา ตรงประตูเมืองดังหลักฐานรูปถ่ายศาลเจ้าที่ผู้ใหญ่เสริม บุระมาณ สร้างไว้ยังเห็นซากกำแพงเก่าอยู่ริมถนนตรงศาลเจ้าต้นโพธิ์ประตูเมือง(รูปถ่ายและเนื้อหาจากหนังสือครุสาส์น พ.ศ.2553:ทวีโรจน์ กล่ำกล่อมจิตต์)ภายหลังคนไทยเชื้อสายจีนมาบูรณะศาลเจ้า รูปทรงศาลเจ้าจึงเปลี่ยนมาเป็นศาลเจ้าสถาปัตยกรรมจีน ที่ศาลเจ้าจารึกอักษรจีนไว้ 4 คำ คือ "เฉิน ห่วง กู่ เมี่ยว"
จับต้องได้ : Tangible.
โบราณสถาน : AS : Archeological Site .
อภิรดี อานมณี : สถาบันอาศรมศิลป์ :