PMU ทุนทางวัฒนธรรม


ข้อมูลวัฒนธรรม : PA-70180-00020 [ ได้รับทุนจากโครงการ ]

นิทานกับคนกะเหรี่ยง
-

"การเล่านิทานของชาวกะเหรี่ยง เป็นการเล่าเรื่องที่แฝงไปด้วยความสนุกความตื่นเต้นความน่าสนใจ และแฝงคติแก่คนที่ฟัง ส่วนมากคนเล่าจะเป็นผู้สูงอายุที่มีประสบการและดนตรีและเพลงสอดแทรกในการเล่าไปด้วย อีกทั้งเป็นกุศโลบายดึงดูดในการให้เด็กมาช่วยงานในไร่ อย่างเช่นให้เด็กมาปลูกข้าวไร่แล้วเวลาพักก็เล่านิทานให้ฟังก่อนครึ่งเรื่อง และเมื่อจบงานจะได้ฟังต่อ และยังนิยมเล่าให้ฟังการนอน บริเวณชานบ้าน ในที่นี้จะยกตัวอย่างให้ 2 เรื่อง นิทาน เรื่องแรก เจอปานิว เรื่องมีอยู่ว่าเจอปานิวเป็นเด็กกำพร้าอยู่กับยาย เจอปานิวเป็นเด็กที่ขี้เกียจมากๆ วันๆเอาแต่นอนไม่ยอมทำงานนี่คือข้อเสียของเจอปานิว วันหนึ่ง ยายใช้ให้เจอปานิวเอาลอบไปจับปลา แต่เจอปานิวไม่อยากไปจับปลา จึงแอบขึ้นไปนอนบนต้นไม้และเอาลอบดักปลาไปวางไว้บนต้นไม้ มีลูกลิงตัวหนึ่งมาแอบเข้าไปมาในลอบดักปลาและออกมาไม่ได้ พอตอนเย็นเจอปานิวกลับบ้านก็เอาลอบที่ติดลูกลิงไปให้ยาย ยายเห็นว่าไม่ได้ปลาได้ลูกลิงก็ยังดีเลยยังเลยจะฆ่าลูกลิงเพื่อเอาไปทำแกง แต่เจอปานิวพอรู้ว่ายายจะฆ่าลูกลิงก็ได้ขอร้องว่ายายอย่าฆ่าลูกลิงเลย เขามีชีวิตของเขา เราก็มีชีวิต เรารักชีวิตเขาก็รักชีวิต เราต้องสงสารเขา อย่าไปฆ่าเขาเลย นี่คือข้อดีของเจอปานิวที่มีความเมตตาต่อผู้อื่น เมื่อเจอปานิวขอร้องยายแล้วยายไว้ชีวิตลูกลิงทำให้โลกเกิดความสงบสุข ลูกลิงก็ดีใจจึงเอาแคนมาเป่าร้องรำทำเพลง เทวดาที่อยู่ตรงนั้นจึงแปลงกายมาเป็นนนกยูงทองออกมาร่ายรำตามเสียงแคนของลูกลิง นิทานเรื่องนี้ของชาวกะเหรี่ยงสอนให้รู้ว่า คนเรามีทั่งข้อดีและข้อเสียไม่มีใครดีทั้งหมดและไม่มีใครเสียไปทุกอย่าง จึงขอให้เอาข้อดีมาคบกัน อย่าเอาข้อเสียมาคบกัน จะทำให้มีความสุข นิทานเรื่องที่2 เรื่อง กะหร๊อกผ้าดู๊(ยักษ์ใหญ่) เรื่องมีอยู่ว่าเรื่องมีอยู่ว่า เขาจะมีกะหร๊อกผ้าดู๊ (ยักษ์ใหญ่) ตนหนึ่ง มีฤทธิ์มาก ออกหากินมนุษย์ เป็นอาหาร จนมา ท่านอันนึงเลย กำจัดจากตอนนี้ได้ วันถึงจนมาถึงเมืองหนึ่ง เจ้าเมืองมีฝีมือ และใช้คาถา อาคม ได้ร่วมกับทหารจับยักษ์ตนนี้ได้แต่ไม่สามารถฆ่ายักษ์ตนนี้ได้เพราะยักษ์ตนนี้ได้รับพรมาจากพระอินทร์ใครก็ไม่สามารถฆ่ายักษ์ตนนี้ได้ เจ้าเมื่องจึงได้ขังยักษ์ไว้ในกรงเพื่อให้ไม่สามารถไปทำร้ายใครได้ เจ้าเมื่องมีบุตรชายวัยรุ่นคนหนึ่งเป็นเจ้าชายที่มีความรู้วิชาอาคมแบบบิดาอยู่มาวันหนึ่งเจ้าชายยและพระสหายได้เล่นทอยสะบ้าอยู่ใกล้ๆกับกงขังยักษ์เจ้าทอยลูกสะบ้าหลุดเข้าไปในกงยักษ์และยักษ์ได้เก็บลูกสะบ้าไว้ได้จ้าชายจึงขอลูกสะบ้าคืนแต่เจ้ายักษ์ไม่ยอมให้ เจ้าชายจึงได้ถามว่าถ้าจะขอลูกสะบ้าคืนให้ได้ ยักษ์จึงข้อแลกเปลี่ยนอย่างไร ยักษ์จึงบอกว่า ข้าจะคืนลูกสะบ้าให้เจ้าชายต้องปล่อยข้าออกไป เจ้าชานจึงบอกว่าข้าจะปล่อยให้เป็นอิสระแล้วห้ามออกไปฆ่าคนเป็นอาหารอีก ยักษ์ก็ใช้เหลี่ยมบอกว่าข้าจะไม่กินคนเมื่องนี้เป็นอาหารเจ้าชายไม่ทันได้คิดให้รอบคอบจึงได้ปล่อยเจ้ายักไปแต่หากยักษ์ผิดคำสัญญาเจ้าชายได้อธิฐานขอพรให้ฆ่ายักษ์ได้และจึงปล่อยเจ้ายักษ์ใหญ่ออกไป ยักษ์ใหญ่เมื่อหลุดออกไปแล้วก็ไม่ฆ่าคนเมืองนี้กินเป็นอาหารแต่ไปฆ่าคนเมืองอื่นกินเป็นอาหารทำให้คนเมืองอื่นเดือดร้อนพอถึงหูเจ้าเมืองเมื่อทราบว่าเจ้าชายเป็นผู้ปล่อยเจ้ายักษ์ออกไปทำร้ายคนเมืองอื่นออกไปตามหาเจ้ายักษ์ใหญ่จับตัวคืนมาเจ้าชายจึงได้ออกตามหากะหร๊อกผ้าดู๊(เจ้ายักษ์ใหญ่)ผู้โหดร้ายจนมาถึงเมืองหนึ่งที่อยู่ห่างไกลมากทราบจากชาวเมืองว่ายักษ์ใหญ่ กินคนเป็นอาหารได้ทำร้ายคน และกินคนเป็นอาหารอยู่ที่ไหนและเจ้าเมืองแห่งนี้ได้ประกาศว่าผู้ใดฆ่ากะหร๊อกผ้าดู๊ตนนี้ได้จะให้แต่งงานกับเจ้าหยิงแสนสวยแห่งเมืองนี้แต่ก็ไม่มีใครสามราถฆ่าเจ้ายักษ์ใหญ่ตนนี้ได้เพราะได้รับพรใครฆ่าก็ไม่ตายเจ้าชายสอบถามกับชาวเมืองที่ถูกทำร้ายเลยรอดมาได้ว่าเจ้ายักษ์ใหญ่ไปทางไหนจนวันหนึ่งก็ได้ตามเจอเจ้ายักษ์ใหญ่กำลังจับชาวบ้านกินเป็นอาหารเจ้าชายจึงไปต่อสู้ขัดขวางไม่ให้ทำร้ายชาวบ้านได้ยักษ์เห็นเจ้าชายก็รู้ว่าจะต้องถูกเจ้าชายฆ่าตายแน่ๆ เพราะผู้ที่สมารถฆ่าตนได้ที่ได้พรมาจากพระอินให้ฆ่าตนได้เพราะเจ้าชายมีฤทธิ์เหนือกว่าตน ให้เจ้าชายตัดหัว เมื่อเจ้าชายตัดหัวเจ้ายักษ์ได้จึงดึงลิ้นเจ้ายักษ์ออกมาและเก็บไว้และได้กลับไป ขณะนั้นมีชายกะล่อนผู้หนึ่งเห็นว่าเจ้ายักษ์ถูกฆ่าตัดหัวแล้วจึงรีบเข้าไปแจ้งกับเจ้าเมืองว่าตนได้ฆ่ากะหร๊อกผ้ดู๊(เจ้ายักษ์ใหญ่)ตาย จึงมาขอรางวัลจากเจ้าเมืองแต่เจ้าเมืองได้ให้พิสูจน์ด้วยการยกหัวของยักษ์ขึ้นมาให้ดู ชายกะล่อนผู้นั้นไม่สามารถยกหัวเจ้ายักษ์ขึ้นมาได้ เจ้าเมืองจึงไม่เชื่อว่าชายกะล่อนจะเป็นผู้ฆ่ายักษ์จึงประกาศตามหาคนสังหารเจ้ายักษ์ให้มารับรางวัล มีตายายอยู่คู่หนึ่งที่รู้ว่าเจ้าชายเป็นผู้ปราบเจ้ายักษ์จริงจึงพาเจ้าชายไปหาเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงให้พิสูจน์ว่าเป็นคนฆ่าเจ้ายักษ์จริงหรือไม่ เจ้าชายจึงบอกให้ทหารเปิดปากดูว่าลิ้นของเจ้ายักษ์มีจริงหรือไม่ เมื่อทหารเปิดปากยักษ์ดูเห็นไม่มีลิ้น เจ้าชายจึงหยิบลิ้นยักษ์ในย้ามขึ้นมาให้ดูและสามารถยกหัว เปิดปากเทียบลิ้นต่อกันได้เมื่อพิสูจน์ได้ว่าเจ้าชายเป็นผู้ปราบและฆ่ายักษ์(กะหร๊อกผ้าดู้)ตัวจริงเจ้าเมืองจึงยกบุตรสาวที่เป็นเจ้าหญิงแสนสวยได้อยู่กินด้วยกันสืบต่อไป นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เรื่องการมีสัจจะ ผู้ใดมีฤทธิเดชแค่ไหนหากผิดสัจจะฤทธิก็จะหายไปเพราะคนสมัยก่อนเชื่อกันว่าใครมีฤทธิเดชมากจะต้องมีศีลธรรม มีข้อห้ามแหละข้อปฏิบัติหากรับคำแล้ว ไม่รักษาสัญญาจะใช้เลย่กลแบบใดฤทธิก็จะหายไปอย่างเช่นกะหร๊อกผ้าดู๊ ที่ให้สัญญากับเจ้าชายและไม่รักษาสัญญาจึงถูกเจ้าชายฆ่าตาย"



 

Icon
ประเภทวัฒนธรรม

จับต้องได้ : Tangible.

Icon
หมวดหมู่วัฒนธรรม

ศิลปะการแสดง : PA : Performing Arts .

Icon
ที่ตั้ง

เลขที่ : บ้านโป่งกระทิงบน ต. บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรี 70180

Icon
ชื่อผู้ให้ข้อมูลหรือชื่อกลุ่มผู้ให้ข้อมูล

นาย ชูศักดิ์ ชีช่วง

Icon
ช่องทางติดต่อผู้ให้ข้อมูล

นาย ชูศักดิ์ ชีช่วง 0890959126

Icon
ผู้บันทึกข้อมูล

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ราชบุรี : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขต ราชบุรี : 2567 Open call

Icon
แหล่งข้อมูอื่น ๆ
-

มีผู้เข้าชมจำนวน :123 ครั้ง
บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ : 08/07/2024 - ปรับปรุงล่าสุดวันที่ : 02/04/2025